ประเทศพม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่อยู่ทางทิศตะวันตก เป็นประเทศที่ในอดีตแม้จะมีประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยดีกับบ้านเราเท่าไหร่นัก แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้มีอะไรต่อกันแถมยังถือว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเกื้อกูลให้กันอยู่บ่อยๆ อีกด้วย ประกอบกับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่พม่าเริ่มเปิดประเทศอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น การเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวยังประเทศของพวกเขาก็ทำได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วย อย่างสถานที่ท่องเที่ยวของพม่าก็มีอยู่ด้วยกันหลายแห่งแต่สถานที่ที่คนทั่วไปมักคุ้นเคยและพุ่งตรงไปทันทีเมื่อต้องเดินทางไปพม่าก็คือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าสวยงามสุดๆ เมื่อได้พบเห็น

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง จัดเป็นพระเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของคนพม่ามาอย่างยาวนาน ถือว่าเป็นเจดีย์ที่มีความโดดเด่น งดงามอย่างมากของเมืองย่างกุ้ง ความหมายของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองแห่งนี้ คำว่า ชเว แปลว่า ทองคำ ชเวดากอง จึงแปลว่า เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง เรียกว่าเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่ใครไปพม่าต่างก็ต้องแวะชมความสวยงามของเจดีย์แห่งนี้ให้จงได้ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เป็นเจดีย์ที่ถูกสร้างมาอย่างยาวนานกว่า 2,500 ปี ชาวพม่าทั่วไปเชื่อกันว่าเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุจำนวน 8 เส้น ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมเครื่องอัฐบริขารของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตอีก 3 พระองค์ แต่เดิมพระเจดีย์แห่งนี้มีความสูง 18 เมตร แต่ปัจจุบันมีความสูงทั้งสิ้น 98 เมตร รอบๆ องค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานตั้งอยู่ 8 ทิศ รวมทั้งหมด 8 องค์ รอบๆ จะเป็นเจดีย์องค์เล็กองค์น้อย คนที่เดินมายังพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองส่วนใหญ่จะเข้ามาที่นี่เพื่อกราบไหว้ สักการะสรงน้ำองค์พระปฏิมา พร้อมกับทำทักษิณาวัตร สำหรับทุกๆ คนที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้จะต้องถอดรองเท้าทุกครั้งเมื่อมาจนถึงทางเข้า เวลาเดินให้เดินตามเข็มนาฬิกา

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองจัดว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามอย่างมากส่วนหนึ่งเกิดจากความศรัทธาของชาวพม่าที่มักนิยมบริจาคของมีค่า เพชร พลอย ให้กับพระเจดีย์ ส่งผลให้องค์พระเจดีย์แห่งนี้มีเครื่องประดับที่มีมูลค่ากว่า 5,000 ชิ้น เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวพม่าเลยก็ว่าได้ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่ที่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมควรไปช่วงเย็นหรือใกล้พลบค่ำจะทำให้แสงพระอาทิตย์ที่กำลังตกกระทบกับตัวองค์เจดีย์เกิดภาพทีสวยงามสุดๆ โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ตี 4 ถึง 3 ทุ่ม เสียค่าเข้าชมท่านละ 5 ดอลลาร์